ร้านอาหารคำหอม ชวนคลายร้อนด้วย “ข้าวแช่” สูตรเฉพาะของเชฟเอียน กิตติชัย จากวัตถุดิบพรีเมียมทั่วไทย

ร้านอาหารคำหอม ชวนคลายร้อนด้วย “ข้าวแช่” สูตรเฉพาะของเชฟเอียน กิตติชัย จากวัตถุดิบพรีเมียมทั่วไทย

ร้านอาหารคำหอมโรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ ขอเชิญทุกท่านดื่มด่ำกับรสชาติความอร่อยแบบไทยๆ ในช่วงฤดูร้อนนี้ กับเมนู “ข้าวแช่” สูตรเฉพาะของเชฟเอียน กิตติชัย ที่คัดสรรวัตถุดิบพรีเมียมจากทั่วประเทศไทยมาปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมเสิร์ฟความสดชื่นตลอดเทศกาล

ข้าวแช่ของห้องอาหารคำหอม ไม่ใช่แค่เพียงอาหารคลายร้อน แต่เป็นการรวบรวมงานฝีมือการทำอาหารไทยแท้ๆ ที่สืบทอดกันมา ด้วยข้าวหอมมะลิหุงเรียงเม็ด น้ำอบดอกไม้ออร์แกนิก และเครื่องเคียง 9 ชนิด ที่โดดเด่นด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสอันลงตัว ได้แก่:

• ลูกกะปิทอดกรอบ (กะปิผสมกุ้งแห้งและมะพร้าวขูด ปั้นเป็นก้อนแล้วทอดจนกรอบ)
• หอมทอดไส้ปลาช่อนและหอมแดง (หอมแดงทอดสอดไส้เนื้อปลาช่อนบดและหอมแดง)
• พริกแห้งทอดไส้ปลาช่อนและกุ้ง (พริกแห้งทอด สอดไส้เนื้อปลาช่อนและกุ้งบด)
• พริกหยวกยัดไส้ไก่และกุ้ง (พริกหยวกสอดไส้เนื้อไก่และกุ้ง ห่อไข่ทอด)
• ไชโป๊วหวานผัดไข่ (หัวไชโป๊วหวานผัดกับไข่)
• หมูเปียก (หมูบดนึ่งปรุงรสด้วยปลาเค็ม)
• ปลายี่สนหวาน (เนื้อปลาตากแห้งฉีกฝอยปรุงรสหวาน)
• หมูฝอยหวาน (หมูฉีกฝอยปรุงรสหวาน)
• ไข่แดงเค็มทอด (ไข่แดงเค็มทอดจนกรอบ)

ปิดท้ายด้วยของหวาน ส้มฉุนลอยแก้ว (ผลไม้ตามฤดูกาลและมะกรูดฝาน ในน้ำเชื่อมหอมอ่อนๆ) ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น

เชฟเอียน กิตติชัย ได้เน้นย้ำถึงการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงจากทั่วประเทศ เช่น ข้าวหอมมะลิจากยโสธร เทียนหอมจากกรุงเทพฯ มะยงชิดจากนครนายก น้ำตาลมะพร้าวจากสมุทรสงคราม กะปิจากพัทลุง และไข่เค็มจากสุราษฎร์ธานี เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมและหอมกรุ่น

ข้าวแช่ชุดพิเศษของห้องอาหารคำหอม พร้อมเสิร์ฟแล้วตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 12 พฤษภาคม 2568 ในช่วงมื้อกลางวัน (12:00 – 15:00 น.)
ราคาชุดละ 750++ บาท (รับประทานที่ร้าน) และ 1,790+ บาท (สั่งกลับบ้าน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองที่นั่งได้ที่:
โทร +66 2 666 3333 หรือ www.khumhomrestaurant.com
สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก:
• Accor Plus: ส่วนลดสูงสุด 50% (รับประทานที่ร้าน) และ 10% (สั่งกลับบ้าน)
• ALL – Accor Live Limitless: คะแนนสะสม คูณสอง

ห้องอาหารคำหอม
ชั้นล็อบบี้ โรงแรมเมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท กรุงเทพฯ
2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร 02 666 3333 | www.khumhomrestaurant.com

#ข้าวแช่ #ห้องอาหารคำหอม #เมอเวนพิค #อาหารไทย #คลายร้อน #วัตถุดิบพรีเมียม

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ด้านศิลปะ แฟชั่น และอาหาร กับ BamBam และ ญาญ่า อุรัสยา ที่ LV The Place Bangkok

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ด้านศิลปะ แฟชั่น และอาหาร กับ BamBam และ ญาญ่า อุรัสยา ที่ LV The Place Bangkok

LV The Place Bangkok เชิญชวนคุณร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ด้านศิลปะ แฟชั่น และอาหาร กับ 2 เฮาส์แอมบาสเดอร์ BamBam และ ญาญ่า อุรัสยา

  • ชมนิทรรศการ Visionary Journeys สัมผัสจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของหลุยส์ วิตตอง
  • ดื่มด่ำกับงานศิลป์สุดอลังการ ผลงานการออกแบบโดย Shohei Shigematsu จาก OMA บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก
  • ลิ้มรสเมนูสุดพิเศษจาก Gaggan at Louis Vuitton ร้านอาหารแรกในเอเชียใต้ของหลุยส์ วิตตอง
  • รังสรรค์โดยเชฟชื่อดัง Gaggan Anand ภายใต้คอนเซ็ปต์ 5 S: หวาน เปรี้ยว เค็ม เผ็ด และเซอร์ไพรส์

LV The Place Bangkok เชิญชวนคุณร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ด้านศิลปะ แฟชั่น และอาหาร กับ 2 เฮาส์แอมบาสเดอร์ BamBam และ ญาญ่า อุรัสยา

นิทรรศการ Visionary Journeys:

  • พบกับนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวความคิดสร้างสรรค์อันยาวนานของหลุยส์ วิตตอง
  • ออกแบบโดย Shohei Shigematsu พาร์ทเนอร์ของ OMA บริษัทออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลก
  • สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมรูปแบบใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ร้านอาหาร Gaggan at Louis Vuitton:

  • ลิ้มลองเมนูสุดพิเศษจากเชฟชื่อดัง Gaggan Anand
  • ภายใต้คอนเซ็ปต์ 5 S: Sweet, Sour, Salty, Spicy และ Surprise
  • ร้านอาหารแรกในเอเชียใต้ของหลุยส์ วิตตอง

Le Café Louis Vuitton

ตกแต่งในบรรยากาศอันรื่นรมย์ของพืชพันธุ์ธรรมชาติ และมีเฟอร์นิเจอร์จากคอลเล็กชัน Objets Nomades อีกด้วย ซึ่งจะมีเมนูชา กาแฟ และขนมหวาน เช่น ทาร์ต ไอศกรีมแซนด์วิช และ Monogram Cake

ข้อมูลสถานที่:

  • LV The Place Bangkok ศูนย์การค้าเกษรอัมรินทร์ ชั้น G – 2
  • เลขที่ 496-502 ถนนเพลินจิต

แฮชแท็ก:

#BamBam #Urassaya #LVThePlace #Bangkok #VisionaryJourneys #LouisVuitton #GagganAnand #อาหาร #ศิลปะ #แฟชั่น

 

คนรักซีฟู้ดห้ามพลาด!! “Red Lobster” เปิดสาขาแรกในไทย ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

มาไทยแล้ว! “Red Lobster” ร้านอาหารทะเลชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เปิดสาขาแรก ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ฟู้ดดี้ชาวไทยต้องไม่พลาดไปลิ้มลอง

บอกเลยซีฟู้ดเลิฟเวอร์ต้องปักหมุด เพราะ Red Lobster (เร้ด ล็อบสเตอร์) ร้านอาหารทะเลอันเลื่องชื่อระดับตำนานกว่า 50 ปีจากประเทศสหรัฐอเมริกาและมีสาขาทั่วโลกกว่า 700 สาขา ได้มาเปิดร้านที่ประเทศไทยให้ฟู้ดดี้ชาวไทยได้ลิ้มลองกันแบบไม่ต้องบินไปกินไกลถึงต่างประเทศ เพียงแค่มุ่งหน้ามาที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็จะได้สัมผัสกับเมนูล็อบสเตอร์ชื่อดังกันได้แบบง่ายดาย

ร้าน Red Lobster เปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ชั้น G ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อมาถึงร้านจะได้สัมผัสกับร้านอาหารสไตล์ Casual Dining ในคอนเซปต์ “Friends & Family” กับบรรยากาศอบอุ่นเป็นมิตรสไตล์อเมริกันที่ดูทันสมัย ดีไซน์การตกแต่งเน้นโทนสีแดง ดำ ฟ้า น้ำตาล

จุดเด่นของร้าน Red Lobster ทางร้านเน้นคุณภาพ ความสด โดยล็อบสเตอร์และวัตถุดิบหลักผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำเข้าจากทั่วโลกมากกว่า 20 ประเทศ รวมทั้งสูตรการปรุงเฉพาะของทางร้าน มัดใจฟู้ดดี้ชาวไทยแน่นอน เมื่อความอร่อยแบบต้นตำรับซีฟู้ดจากสหรัฐอเมริกายกขบวนมาเสิร์ฟถึงไทย ก็ต้องจัดเต็มเมนูซิกเนเจอร์ที่พลาดไม่ได้ อาทิ

Live Maine Lobster (ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์) เมนูที่ต้องสั่งทุกโต๊ะ เรียกได้ว่าเป็นราชาแห่งอาหารทะเล ซึ่งทางร้านได้เลือกใช้ล็อบสเตอร์ตัวเป็นๆ นำเข้าจากประเทศแคนาดา จุดเด่นของล็อบสเตอร์สายพันธุ์นี้คือขนาดตัวโตและมีก้ามใหญ่ เนื้อนุ่มที่สุดในหมู่ล็อบสเตอร์ทั้งหมด เป็นล็อบสเตอร์จากน่านน้ำทะเลแอตแลนติค อาศัยอยู่ในกระแสน้ำเย็น จึงทำให้เนื้อล็อบสเตอร์มีความหวานกว่าล็อบสเตอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำอุ่น เพราะไม่ซึมซับความเค็มของเกลือในทะเล ซึ่งที่ร้านเลือกใช้ล็อบสเตอร์น้ำหนักประมาณ 550 – 600 กรัมต่อตัว แล้วนำมาอบ ลูกค้าจะได้ลิ้มรสของล็อบสเตอร์สดๆ ทั้งตัว เสิร์ฟพร้อม Butter Sauce สูตรเฉพาะของทางร้าน และ Side Dishes อย่างร็อกเก็ตสลัดและเฟรนช์ฟรายส์

Live Lobster Thermidor (ไลฟ์ ล็อบสเตอร์ เทอร์มิดอร์) ล็อบสเตอร์สดๆ ทั้งตัว ราดซอสเทอร์มิดอร์สูตรพิเศษของทางร้าน นำไปอบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้รสชาติอร่อย เข้มข้น เข้ากันได้ดีกับเนื้อล็อบสเตอร์

Spaghetti Aglio Olio with Live Maine Lobster (สปาเก็ตตี้ อัลกลิโอ โอลิโอ วิท ไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์) สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมและไลฟ์ เมน ล็อบสเตอร์รวมอยู่ในจานเดียวกัน สปาเก็ตตี้รสชาติเข้มข้น หอมพริก กระเทียม จัดจ้านถูกปากคนไทย เข้ากันอย่างลงตัวกับล็อบสเตอร์สดๆ ทั้งตัว ปรุงรสด้วยเนยกระเทียม

Signature Feasts (ซิกเนเจอร์ ฟีสท์) ที่คัดสรรเมนูอาหารทะเลที่เป็นซิกเนเจอร์มารวมไว้ในจานเดียว มีให้เลือก 3 เมนู เมนูแรก

  • Ultimate Feast® (อัลติเมท ฟีสท์) ซีฟู้ดจานรวมที่ขายดีสุดทั่วโลก ประกอบด้วย Lobster Tail (ล็อบสเตอร์ เทล), Snow Crabs Legs (ปูหิมะ), Garlic Shrimp Scampi (กุ้งอบเนย) และ Crispy Shrimp (กุ้ง คริสปี้)
  • Grand Grilled Feast (แกรนด์ กริลด์ ฟีสท์) จานซีฟู้ดรวมของย่าง ประกอบด้วย Lobster Tail, ปลาแซลมอน, กุ้งจัมโบ้เสียบไม้ย่าง
  • Admiral’s Feast (แอดมิรอล ฟีสท์) จานซีฟู้ดรวมของทอด เหมาะกับการทานคู่กับเครื่องดื่มทุกชนิด ประกอบด้วย ปลากะพงชุบเกล็ดขนมปังทอด หอยนางรมชุบเกล็ดขนมปังทอด หอยเชลล์ชุบเกล็ดขนมปังทอด และ Crispy Shrimp

Duo Lobster Tails (ดูโอ ล็อบสเตอร์ เทล) ล็อบสเตอร์ส่วนหาง เนื้อแน่น หวาน มาพร้อม 2 รสชาติในจานเดียว ทั้งแบบคลาสสิคปรุงรสด้วยเนย กระเทียม เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและรสชาติหวานอร่อยแท้ๆ ของเนื้อล็อบสเตอร์ และแบบปรุงรสด้วยซอสเทอร์มิดอร์ ให้ความอร่อยเข้มข้นขึ้น เสิร์ฟพร้อมบัตเตอร์ซอสและของเคียง

Cheddar Bay Biscuits (เชดดาร์ เบย์ บิสกิต) เมนูซิกเนเจอร์ของ Red Lobster มาตั้งแต่ปี 1992 เป็นเมนูยอดนิยมและเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามาเป็นเวลายาวนาน เมื่อพูดถึงร้าน Red Lobster ลูกค้าทุกคนจะนึกถึง

Cheddar Bay Biscuits เป็นอันดับแรก จนกลายเป็นเมนูสัญลักษณ์ของร้าน Cheddar Bay Biscuits ทุกชิ้น อบสดใหม่ทุกวัน ใช้แป้งสูตรลับเฉพาะของทางร้านผสมกับ Cheddar Cheese คุณภาพดี เคลือบด้านบนด้วยเนยกระเทียมสูตรพิเศษ ทำให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากนั้น ทางร้านยังมีเมนูความอร่อยหลากหลายที่ไม่ใช่แค่ล็อบสเตอร์ อาทิ US Angus Ribeye Steak, Wagyu Bacon Cheeseburger, Salmon New Orleans และเมนูอื่นๆ อีกหลากหลายเมนู

“Red Lobster”

เปิดทุกวัน เวลา11.00–22.00 น.
ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น G
โทร. 062-243-8237
Line Official Account: @redlobster_th
Facebook Page: Red Lobster Thailand