หน้าแรก USA | อเมริกา Boston | บอสตัน เที่ยว Boston / New York / Washington D.C. ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน

เที่ยว Boston / New York / Washington D.C. ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน [ Day2 ]

ทริปวันที่ 2 วันแห่งความประทับใจ เติมความเข้าใจประวัติศาสตร์อเมริกา Freedom Trail  แถมเยี่ยมชม 2 มหาวิทยาลัยดังระดับโลกอย่าง Harvard University (มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) และ MIT (Massachusetts Institute of Technology) ได้ตามรำลึกถึง ในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ จตุรัสภูมิพล ใน Boston แล้วปิดท้ายด้วยการชอปปิ้งที่ Woodbury Common Premium Outlets

วันนี้พวกเราตื่นตั้งแต่ตี 4 ด้วยความตื่นเต้น เพราะต้องนั่งรถไปเมืองบอสตัน เมืองที่มีสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรัก และรำลึกถึง ในหลวง รัชกาลที่ 9 รวมทั้ง บอสตันเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่เกี่ยวกับการก่อตั้งสหรัฐอเมริกา และที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยดังระดับโลกอีกด้วย เมืองบอสตันจึงเป็นเมืองที่ปักหมุดต้องมาให้ได้ในทริปนี้ของผม!!

คลิกอ่าน เที่ยว Washington D.C. / New York / Boston ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน [ Day4 ]
คลิกอ่าน เที่ยว Boston / New York / Washington D.C. ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน [ Day2 ]
คลิกอ่าน เที่ยว New York / Boston / Washington D.C. ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน [ Day1 ]

ผมเดินทางโดยรถยนต์ ที่มี น้องเอ๋ คนไทยที่มีสัญชาติอเมริกัน แถมยังเป็นทหารอยู่ที่นี่ด้วย ใจดีพาพวกเราไปสู่ดินแดนประวัติศาสตร์กัน เดินทางจาก นิวยอร์ก ไป บอสตัน โดยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงนิดๆ รวมเวลาพักระหว่างทางแล้ว เราไปถึงกันเช้ามากซึ่งร้านอาหารในเมืองบอสตันยังไม่ทันเปิด แต่โชคดีมีภัตตาคารอาหารจีน ที่ใหญ่โตโอ่อ่าเปิดแล้ว ไม่แน่ใจว่าที่นี่คือโรงงิ้วเก่าหรือเปล่านะครับ อาหารที่นี่เป็นพวกติ่มซำ ก็จะมีพนักงานเข็นรถเข็นที่บรรจุเข่งติ่มซำหลากหลายเมนูให้เลือกหยิบมาทานกัน รสชาติก็อร่อยดีถูกปากเลยทีเดียว หลังจากอิ่มหนำแล้ว ก็ได้เวลาออกสำรวจเมืองบอสตันอย่างเป็นทางการ

การเที่ยวบอสตันนั้น แนะนำว่าให้เริ่มต้นสำรวจเมืองที่ บอสตันคอมมอน Boston Common & Public Garden ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในอเมริกา ที่นี่เหมาะสำหรับเริ่มต้นเส้นทางการศึกษาประวัติศาสตร์ Freedom Trail ซึ้งเราสามารถขอแผนที่ได้จากจุดให้ข้อมูลที่สวนนี้

หลังจากถ่ายรูป เช็คอินแล้ว ผมก็เริ่มต้นสำรวจ Freedom Trail เป็นเส้นทางแห่งอิสรภาพเดินชมอาคารสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์อันนำไปสู่การก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา

ฟรีดอมเทรล หรือ Freedom Trail ในเมือง บอสตัน นั้น ได้ถูกจัดการให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆนั้น เดินเที่ยวชม และศึกษาประวัติศาตร์การสร้างชาติ การปฏิวัติ การเกิดขึ้นของวีรบุรุษที่เราคุ้นชื่อ อย่างง่าย และได้ความรู้อย่างแน่นเอี๊ยดเลยทีเดียว

การเดินชมเส้นทาง Freedom Trial นั้น เมืองบอสตันได้วางอิฐบล็อคบนถนนเป็นเส้นยาวผ่านอาคารบ้านเรือนและสถานที่สำคัญๆตั้งแต่ต้นทางจนถึงจุดสุดท้ายดังนั้นผมรับรองว่าถ้าเดินตามเส้นที่ขีดไว้นี้ไม่มีทางหลงแน่นอน

โดยจุดเริ่มจะอยู่ในส่วนย่านดาวน์ทาวน์กลางเมือง ที่ Boston Common และไปสิ้นสุดที่ Bunker Hill Monument รวมสถานที่ประวัติศาสตร์ทั้งสิ้น 16 แห่ง

    1. Boston Common
    2. Massachusetts State House
    3. Park Street Church
    4. Granary Burying Ground
    5. King’s Chapel and Burying Ground
    6. Benjamin Franklin statue and former site of Boston Latin School
    7. Old Corner Bookstore
    8. Old South Meeting House
    9. Old State House
    10. Site of the Boston Massacre
    11. Faneuil Hall
    12. Paul Revere House
    13. Old North Church
    14. Copp’s Hill Burying Ground
    15. USS Constitution
    16. Bunker Hill Monument

คลิกอ่าน  ตามรอยเส้นทางสู่อิสรภาพของอเมริกากับ Freedom Trail ใน Boston 

หลังจากพลพรรคร่วมสำรวจ Freedom trail เริ่มหมดแรงกันแล้วแถวๆ Faneuil Hall Marketplace ก็เลยหาอะไรทานกันง่ายๆ ใน Quincy Market พอหายเหนื่อยก็ได้เวลาไปจุดที่น่าสนใจต่อไปใน บอสตัน นั่นก็คือ มหาวิทยาลัยในฝันของผมเอง!! ได้แก่ Harvard University – มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และ MIT – ย่อมาจาก Massachusetts Institute of Technology นั่นเอง ซึ่งทั้ง 2 แห่งเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่ และมีชื่อเสียงระดับโลก ถึงแม้ผมจะไม่สามารถเข้าไปเรียนได้แบบในฝัน มาบอสตันคราวนี้ก็ขอเข้าไปสัมผัสความเป็นนักศึกษาของ 2 ที่นี้สักครั้งก็คงแฮปปี้แล้วล่ะครับ

ผมมาถึงที่แรกคือ MIT –  Massachusetts Institute of Technology หรือ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงเรื่องการศึกษาในสาขาเคมี ฟิสิกส์ และวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ ผมเป็นคนไอที ที่นี่คือมหาวิทยาลัยในใจที่หนึ่งแน่นอน พวกเราเข้ามาจอดรถที่หน้าอาคาร Maclaurin Buildings ซึ่งอาคารเป็นรูปตัว U รูปแบบสถาปัตยกรรม นีโอคลาสสิค ที่มีโดมขนาดใหญ่เหนืออาคาร ที่นี่เราได้เจอกับเจ้าหน้าที่ในสถาบันพาเราเดินชมห้องเรียน และแนะนำสถานที่ต่างๆ ผมมาสะดุดตากับปฏิมากรรม Alchemist ที่ประกอบด้วยตัวอักษรกลายเป็นรูปของคนนั่งกอดเข่าแนบอก สีขาวสะอาดตา ตั้งอยู่หน้าอาคาร Stratton Student Center หลังจากนั้นผมก็พยายามเดินหาอาคารทรงแปลก Ray and Maria Stata Center แต่หาไม่เจอสักทีเลยตัดใจไปที่อื่นต่อ เพราะเวลาใกล้เย็นเต็มที

ที่ต่อไปในบอสตันที่เราจะไปเที่ยวชมอีกแห่งก็ยังคงเป็นมหาวิทยาลัยเหมือนกัน นั่นคือ Harvard University – มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ขับรถจาก MIT ไม่นาน พวกเราก็มาถึงหน้ามหาวิทยาลัย สังเกตุรอบๆบริเวณของ Harvard นั้นรูปแบบศิลปะอาคารจะต่างจากที่ MIT เลยก็ว่าได้

มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยอันเก่าแก่ที่สุดของอเมริกา ก่อตั้งเมื่อปี ค.. 1636 และยังคงมีชื่อเสียงอยู่จนถึงทุกวันนี้ มีศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลรวมกัน 75 รางวัล มีศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดี 8 คน (เช่น จอห์น เอฟ. เคนเนดี และบารัก โอบามา เป็นต้น

หลังจากเดินเข้ารั้วมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตัวอาคารส่วนใหญ่เป็นอิฐสีแดง และดูเรียบง่าย แต่สวยงามมากๆในสายตาของผม ซึ่งเดินเข้ามาสักพักเราจะได้เจอกับ Harvard Yard ที่ร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด และมีนักศึกษาจับกลุ่มนั่งทำกิจกรรมอยู่ด้วย ดูแล้วมีชีวิตชีวามากๆ เมื่อหันหน้าเข้า Harvard Yard ขวามือจะเป็น Massachusetts Hall ซึ่งเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในฮาร์วาร์ด และเป็นอันดับสองในอเมริกา ส่วนซ้ายมือจะเป็น Harvard Hall ซึ่งเดิมเป็นห้องสมุด ปัจจุบันใช้เป็นห้องเรียน ตรงกลางมีรูปปั้นของ John Harvard รูปปั้นนี้ได้ชื่อว่าเป็น “The Statue of three lies” เนื่องจากรวมความไม่จริงเกี่ยวกับรูปปั้น John Harvard หรือที่เรียกกันว่า The 3 Lies of Harvard ได้แก่

  1. รูปปั้นนั้นไม่ใช่ John Harvard แต่เป็น Sherman Hoar
  2. John Harvard ไม่ได้เป็นผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถูกก่อตั้งโดยการลงคะแนนเสียงจาก the Great and General Court of the Massachusetts Bay Colony
  3. มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดไม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1638 ตามที่เห็นบนรูปปั้น แต่ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1636

ผมเดินมาถึงรูปปั้น John Harvard ในช่วงที่ไม่มีคิวจึงได้ถ่ายรูปแบบไม่ต้องรอ และ ถ่ายแบบไม่เร่งรีบ โชคดีจริงๆครับ ผมไม่พลาดที่จะถูๆ และ จับเท้าซ้ายของรูปปั้น ที่ถ้าสังเกตจะเห็นว่าปลายรองเท้านั้นเป็นสีทองอร่าม เพราะความเชื่อที่ว่า ถ้าถูแล้ว จะทำให้สามารถสอบเข้าเรียนที่ฮาร์วาร์ดได้ หรือถ้าเป็นนักเรียนที่นั่นแล้ว ก็จะสอบได้คะแนนดี ทุกคนที่มาที่นี่เลยแตะเพื่อถ่ายรูปกันทุกคนรวมทั้งผมด้วย ^_^

เดินถ่ายรูปชมตึก ชมนกชมไม้ ชมนักศึกษาจนเพลินแล้ว พวกเราใช้เวลาอักสักพักก่อนอำลามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ไปเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกของมหาวิทยาลัย มีสินค้าเยอะมาก น่าซื้อทุกอย่างเลย ยกตัวอย่างเสื้อยืดที่สกรีนชื่อมหาวิทยาลัยมีหลายแบรนด์ให้เลือก ผมเลยตัดสินใจเลือกแบรนด์ Champion เพราะเนื้อผ้าดี สกรีนสวย แถมแบรนด์แชมเปี้ยนยังเป็นที่นิยมในบ้านเราด้วย สรุปแล้ว ผมได้ เสื้อมา 3 ตัว พร้อมธงสามเหลี่ยมที่แสดงความเป็นน้อง Freshy ปี 1 (เพราะมันคือความใฝาฝันอ่าเนอะ อิอิ) เสร็จแล้วเราจะไปสถานที่สุดท้ายที่สำคัญที่สุดในทริปวันนี้ก็ว่าได้นั่นคือ  King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square ซึ่งเดินไม่ไกลจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด

King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square หรือจตุรัสภูมิพล”  ตั้งอยู่บริเวณถนน Iliot ตัดกับถนน Bernett หน้าโรงแรมชาร์ลส์ใกล้กับ Harvard Square ที่นี่มีแท่นจารึกที่ระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์เดียวที่ประสูติที่เมืองบอสตัน ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เดิมมีชื่อว่า โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (Cambridge Hospital) และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เป็นหนึ่งในโรงพยาบาลที่ใช้สำหรับแพทย์ฝึกหัดจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งเคยเป็นสถานที่ที่ พระบรมราชนก ทรงเคยศึกษาแพทย์ศาสตร์

หลังจากน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ร.9 แล้ว ก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องร่ำลาเมืองบอสตันแห่งนี้แล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งมาก ซึ่งผมมีเวลาจำกัดในการเที่ยวบอสตันใน 1 วัน เท่านั้น จึงเลือกเที่ยวในสถานที่ในฝันก่อน แล้วถ้ามีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียนอีกครั้งคงจะได้เที่ยวจัดเต็มที่บอสตันแน่นอน

ก่อนกลับเข้า นิวยอร์ก พวกเราตัดสินใจแวะ เอาต์เล็ทขนาดใหญ่ ระหว่างทาง นั่นคือ Woodbury Common Premium Outlets แหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมราคาถูกมากอย่างไม่น่าเชื่อ!! มีแบรนด์เยอะมากที่ใช้เวลาทั้งวันก็เดินไม่ครบ ที่นี่รวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลก อาทิเช่น Tory Burch, Nike, Adidas, Celine, Bottega Veneta , Polo Ralph Lauren, Michael Kors, Burberry, Coach, The North Face, Kate spade, Longchamp, Prada, Calvin Klein, Tommy Hilfiger และอีกมากมาย ที่นำมาลดราคาสูงสุดกว่า 70% เป็นการเดินช้อปที่เพลินมาก ท่ามกลางอากาศติดลบ จนลืมถ่ายรูปสถานที่ และนี่คือ 2 รูปที่ได้ถ่ายคือรูปเซลฟี่นั่นเอง55+

การเดินทางของผมคือนั่งรถยนต์ส่วนตัวกลับจากบอสตันเข้านิวยอร์ก ซึ่งก็ง่ายๆ แต่ถ้าใครไม่มีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถนั่งรถบัสจากสถานี 42 St – Port Authority Bus Terminal ได้ง่ายๆเช่นกัน เพราะการันตีจากที่พี่รุ้งสามารถเดินทางคนเดียวมาช้อปปิ้งแบบชิลล์ๆได้แบบไม่หลง 555+ โดยฝากเจ้าของบ้านที่เราไปพักซื้อตั๋วผ่านเว็บไซต์ Groupon ราคาประมาณ 25-30 ดอลลาร์ (ไปกลับ) นำเวาเชอร์ไปขึ้นตั๋วที่เคาน์เตอร์ แล้วก็ไปขึ้นรถตามชานชาลาที่แจ้งไว้ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เองก็สามารถละลายเงินดอลล่าร์ให้หมดกระเป๋าได้พริบตา

ทั้งหมดนี้คือการเที่ยว อเมริกา วันที่ 2 ในทริป ที่เมืองบอสตัน ถือว่าประทับใจมากๆ ต้องขอบคุณน้องเอ๋ ทหารอเมริกันชาวไทยใจดีสุดๆ ที่ขับรถพาพวกเราไปเที่ยวถึงบอสตัน

รอติดตามอ่าน เที่ยว New York / Boston / Washington D.C. ง่ายๆ เช็คอินสุดฟิน ทริปในฝัน [ Day3 ] เร็วนี้นะครับ ^_^